นายสงค์ศักย์ คำดีรุ่งริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมกันพิจารณาเพื่อหามาตรการป้องกันความเสี่ยงในการขอผ่อนปรน การอนุญาตให้กิจการสนามกอล์ฟภายในจังหวัดเชียงใหม่สามารถเปิดบริการได้ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 ณ ห้องประชุมหอพัก 700 ปี สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี โดยมี นายนพดล เกิ้งบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 5 เป็นประธานการประชุม นายสงค์ศักย์ คำดีรุ่งริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเลขานุการการประชุม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านกีฬา ด้านการท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ สังคม และด้านอื่นๆ ทั้่งจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมประชุม เพื่อเสนอความเห็นในการผ่อนปรนอนุญาตให้เปิดบริการสนามกอล์ฟในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคณะทำงานด้านสนามกอล์ฟหรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ ประกอบด้วยหน่วยงานหลักคือ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ และ ศูนย์พัฒนากีฬา มณฑลทหารบกที่ 33 ทั้งนี้ ในคำสั่งปิดสถานประกอบการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือนและปลายเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา มีกิจการที่ถูกกำหนดให้ปิดกิจการเป็นการชั่วคราวรวมทั้งสิ้น 34 รายการ โดยลำดับที่ 22 คือ สนามกอล์ฟหรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ
ทั้งนี้ ตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 15/2563 ลงวันที่ 15 เมษายน 2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานประเมินผลกระทบและความเสี่ยงในการระบาดตามมาตรการเร่งด่วน ในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งมี นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานคณะทำงาน พร้อมผู้แทนคณะทำงานจากภาครัฐ 13 คน คณะทำงานภาคเอกชน 4 คน และคณะทำงานด้านสาธารณสุขและระบาดวิทยา 5 คน โดยมี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ กับ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ และมี ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ กับ ผู้อำนวยการกลุมงานยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อันเป็นโรคติดต่ออันตราย พบการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางสำคัญทางเศรษฐกิจ การคมนาคม การท่องเที่ยว และมีความหนาแน่นของประชากรสูง ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของโรค การควบคุมโรคอย่างทันเวลาและจำกัดการชุมนุมของประชาชน เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดขยายวงกว้างจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จึงมีคำสั่งมาตรการเร่งด่วน ในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกำหนดให้มีการปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่บางแห่งเป็นการชั่วคราว เพื่อประกอบแนวทางในการป้องกันและควบคุมโรคในระยะต่อไป
ในการนี้ หลังจากที่ได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวมาระยะหนึ่ง ปรากฏว่าสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มดีขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ที่เกิดขึ้นจากมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์ดังกล่าว จึงเห็นสมควรดำเนินการพิจารณาผลกระทบและความเสี่ยงในการระบาดกรณีการปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวตามความเหมาะสมของสถานการณ์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (7) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 22 / 2563 จึงแต่งตั้งคณะทำงานประเมินผลกระทบและความเสี่ยงในการระบาดตามมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ประกอบด้วย
การสำรวจและรวบรวมข้อมูลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และทางระบาดวิทยา ที่เกิดขึ้นกับสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากมีการปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว
การวิเคราะห์ ประเมินผล และจัดลำดับความสำคัญ รวมทั้งจัดทำข้อสรุปเพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาผลกระทบและความเสี่ยง ในการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคธุรกิจเอกชน
การเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาผลกระทบและความเสี่ยงในการระบาด กรณีการปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวตามความเหมาะสมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019
และดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มอบหมาย
****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น