All online

วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ข่าว ; สถานการณ์ไข้เลือดออกเชียงใหม่ยังมีอัตราค่อนข้างสูง

นายแพทย์วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 9 กรกฎาคม 2560 ว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นอันดับที่ 17 ของประเทศ และเป็นอันดับที่ 3 ของเครือข่ายบริการสาธารณสุขเขต 1 รองจากจังหวัดน่าน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีรายงานผู้ป่วยมากกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปี เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนผู้ป่วยทั้งหมด 761 ราย อัตราป่วย 40.77 ต่อแสนประชากร และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย อายุ 75 ปี ที่อำเภอฝาง และอีก 2 ราย ที่สงสัยว่าเสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก รายแรกเป็นชายอายุ  22  ปี ที่อำเภอดอยเต่า และรายล่าสุดเป็นเด็กหญิง อายุ 10 ปี ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ ขณะนี้กำลังรอผลการยืนยัน โดยที่จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยแล้ว 23 อำเภอ โดยอำเภอที่พบมาก 5 อันดับแรก ได้แก่  อำเภอจอมทอง (144.26 ต่อแสน) เวียงแหง (115.46ต่อแสน)  แม่อาย (107.61 ต่อแสน) ดอยหล่อ (65.31 ต่อแสน) และแม่วาง (49.07 ต่อแสน) อำเภอที่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วย มี 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสะเมิง และอำเภอกัลยานิวัฒนา

สำหรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก ของจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย
1. กำหนดเรื่องไข้เลือดออกเป็นวาระจังหวัดเชียงใหม่ ทำ MOU ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ
2. แต่งตั้งคณะกรรมการไข้เลือดออกระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล
3. จัดตั้งทีมนิเทศติดตามการดำเนินงานตามมาตรการทั้งระดับจังหวัด อำเภอและไขว้ตำบล
4. จัด warroom ระดับจังหวัดทุกเดือน
5. กำหนดมาตรการพื้นที่ 6 สี (แดง เหลือง เขียว ขาว เทา ดำ) ประกอบด้วยมาตรการ ดังนี้
5.1 มาตรการ 3-3-1-5-14-28
5.2 มาตรการประชาคมและ warroom
5.3 Big Cleaning Day ทุกเดือน
5.4 การสำรวจและทำลายแหล่งให้ค่า HI เป็น 0 ภายใน 5 วัน
5.5 การพ่นสารเคมีฆ่ายุงตัวแก่ 6 ครั้ง(0,3,7,14,21,28)
5.6 การประชาสัมพันธ์และสื่อสารความเสี่ยง
5.7 ค้นหาผู้ป่วยรายใหม่
6. จัดทำแนวทางการดูแลรักษาและส่งต่อโรคไข้เลือดออกในโรงพยาบาลชุมชน

"ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องก็จะเพิ่มแหล่งเพาะพันธุ์ยุงทำให้มีปริมาณยุงเพิ่มมากขึ้น การดำเนินงานในพื้นที่ยังพบดัชนีลูกน้ำยุงที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะพื้นที่เกิดโรคที่ยังไม่สามารถทำให้ค่า HI เป็น 0 ได้   ซึ่งประเด็นปัญหาที่พบส่วนใหญ่แต่ละครัวเรือนยังไม่มีส่วนร่วมในการจัดการแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในบ้านตนเอง  แหล่งที่พบบ่อยได้แก่ ยางรถยนต์ ภาชนะเก็บน้ำในบ้าน และเศษขยะบริเวณรอบๆบ้าน จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกหลังคาเรือน หน่วยงาน องค์กร สถานประกอบการ ภาครัฐและเอกชน สำรวจและจัดการแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทั้งในบ้านและนอกบ้านรวมถึงตามหน่วยงานของตนเองทุกสัปดาห์ อีกทั้งจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมไม่ให้เอื้อต่อการเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และควรป้องกันตนเองและลูกหลานไม่ให้ยุงกัด เช่น ทายากันยุงหรือสมุนไพรกันยุง" รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กล่าว

สำหรับโรคไข้เลือดออกยังไม่มีวัคซีนฉีดอย่างแพร่หลายและราคาแพง ยกเว้นในโรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง จะฉีดในกลุ่มอายุ 9 - 45 ปี ประสิทธิภาพวัคซีน 65.6%   ลดความรุนแรง 93.2% ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล 80.8%   โดยฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ห่างกันเข็มละ 6 เดือน แต่ละสายพันธุ์ภูมิคุ้มกันขึ้นไม่เท่ากัน ผู้ที่เคยเป็นมาก่อนภูมิคุ้มกันจะขึ้นดีกว่า (81.9%)  คนที่เป็นครั้งแรก (52.5%)  ราคารวม 3 เข็มประมาณ 10,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ที่มีอาการสงสัยว่าจะเป็นไข้เลือดออก ได้แก่ มีไข้สูงลอยร่วมกับอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก/ข้อต่อ  คลื่นไส้  อาเจียน  มีจุดเลือดออกตามผิวหนังหรือมีอาการเลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดา  มีประจำเดือนมากกว่าปกติ ควรไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ทำการตรวจร่างกาย   และควรไปตามแพทย์นัดทุกครั้ง นอกจากนั้น ควรป้องกันตนเองและลูกหลานไม่ให้ยุงกัด เช่น ทายากันยุงหรือสมุนไพรกันยุง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร.053-211048-50 ต่อ 110-12

***************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น