ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; จังหวัดเชียงใหม่เตรียมพร้อมรับปัญหาภัยแล้งโดยให้แต่ละพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเชื่อได้ว่าปีนี้ประชาชนจะไม่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากปริมาณน้ำสำรองที่กักเก็บไว้ตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วจังหวัดมีมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา
นายประจญ ปรัชญ์สกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงของปีนี้ว่า ก่อนหน้านี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศเป็นวาระจังหวัดไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2553 พร้อมกับภัยหนาว หมอกควันและไฟป่า โดยหมอกควันและไฟป่าเป็นหน้าที่ของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ดูแล ส่วนของภัยแล้งและภัยหนาวเป็นหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้รับผิดชอบดูแล
นายประจญ ปรัชญ์สกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงของปีนี้ว่า ก่อนหน้านี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศเป็นวาระจังหวัดไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2553 พร้อมกับภัยหนาว หมอกควันและไฟป่า โดยหมอกควันและไฟป่าเป็นหน้าที่ของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ดูแล ส่วนของภัยแล้งและภัยหนาวเป็นหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้รับผิดชอบดูแล
หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ช่วงก่อนจะเข้าสู่ฤดูแล้งนี้ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจของจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้แจ้งให้ทุกอำเภอเข้าสำรวจตรวจสอบภาชนะเก็บกักน้ำ รวมทั้งแหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่ ทั้งในและนอกเขตชลประทาน พร้อมให้แจ้งเตือนและทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการเพาะปลูกพืชในฤดูแล้ง ว่าสามารถปลูกพืชใดได้หรือพืชใดมีปัญหา รวมทั้งรณรงค์สร้างความชุ่มชื้นในพื้นที่เช่นการสร้างฝายแม้ว โดยให้แต่ละอำเภอรายงานผลการดำเนินการมายังจังหวัดเป็นระยะ เพื่อนำแจ้งให้กับทุกส่วนราชการได้รับทราบ ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ทั้งนี้ และหากที่ใดมีปัญหามากจนงบประมาณของอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ไม่เพียงพอ ก็สามารถรายงานขอประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติภัยแล้ง เพื่อขอใช้งบประมาณเพิ่มเติมในส่วนของงบสำรองราชการตามอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด หลังจากก่อนหน้านี้ได้จัดสรรไปให้แล้วอำเภอละ 1,000,000 บาท
หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่กล่าวถึงปัญหาภัยแล้งโดยภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ยังประสบปัญหาน้อยหากเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่น เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ลุ่มน้ำมาก มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางหลายแห่ง และแต่ละอ่างก็มีปริมาณน้ำสำรองมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา เช่น เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีปริมาณน้ำเกือบเต็ม คือประมาณ 97-98 % ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ก็มีปริมาณน้ำประมาณ 50 % นอกจากนั้น ยังมีหน่วยงานทั้งส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจากนอกพื้นที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
“แม้จะไม่สามารถรับประกันได้ว่าประชาชนชาวเชียงใหม่จะไม่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง เพราะปัญหาภาวะโลกร้อนและปัญหาภูมิอากาศแปรปรวน ซึ่งเกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมาและอาจจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ ซึ่งภาวะดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดสถานการณ์แล้งรุนแรงตามมา แต่ศูนย์เฉพาะกิจของจังหวัดเชียงใหม่ก็ยังคงเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้ประชาชนประสบปัญหาหรือหากเกิดขึ้นก็จะได้เข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที” นายประจญกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น