หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า นโยบายการแก้ปัญหาของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในปีนี้ไม่ได้เน้นเรื่องการดับไฟเพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและเป็นเรื่องยากในทางปฏิบัติ จะเห็นว่าที่ผ่านมาหลายปีถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหา นอกจากนั้น บางครั้งยังทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดการสูญเสียบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ จึงถือได้ว่าวิธีการของปีนี้มาได้ถูกทาง
"ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้นโยบายในการปฏิบัติโดยเน้นป้องกันมากกว่า ซึ่งวิธีการป้องกันก็มีหลากหลาย ทั้งการชี้แจงทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือ จัดชุดลาดตระเวน หรือบางครั้งก็จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกร่วมชุดปฏิบัติการเพื่อทำการจับกุมผู้ฝ่าฝืน เป็นการป้องปรามในเชิงจิตวิทยา ซึ่งแต่ละอำเภอต่างก็เข้าใจและสามารถขยายผลการป้องกันในพื้นที่ของตนเองอย่างได้ผล" นายอารุณกล่าว
นายอารุณยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินการดังกล่าวนี้จำเป็นต้องมีงบประมาณสนับสนุน และการจัดสรรจากทางราชการโดยตรงจะมีขั้นตอนตามระเบียบวิธีของทางราชการ ซึ่งอาจจะล่าช้าไม่ทันการ ซึ่งในปีนี้ ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน คือ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมกันจัดหางบประมาณโดยการจัดแสดงคอนเสิร์ต การแข่งขันกอล์ฟ และการแข่งขันยิงปืน ได้เงินมาสนับสนุนกองทุนป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ 2,077,400 บาท ซึ่งได้ใช้จ่ายในการดำเนินงานไปแล้ว 846,800 บาท ยังคงเหลือเงินกองทุน 1,230,600 บาท เพื่อใช้ดำเนินการในโอกาสต่อไป
หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์จุดความร้อน หรือ Hotspot ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 26 มีนาคม 2565 ว่า เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 33,977 จุด ลดลง 61.96% จากปีที่แล้วในช่วงเดียวกันซึ่งเกิดขึ้น 89,323 จุด สถานการณ์ฝุ่นควันขนาดเล็ก PM2.5 ก็มีค่าน้อย คุณภาพอากาศโดยรวมส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีถึงดีมาก แม้ว่าปีนี้จะมีฝนตกลงมาช่วยบรรเทาปัญหาแต่ก็ยังมีทิ้งช่วง และจากนี้ไปทุกอำเภอที่ได้รับนโยบายจากทางจังหวัดไปแล้วก็จะยังคงเดินหน้าป้องกันปัญหาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะถึงฤดูฝนซึ่งปัญหาก็จะหมดไปตามธรรมชาติ
**************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น