พระเทพวรสิทธาจารย์
รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร กล่าวถึงงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะว่า
เมื่อครั้งพุทธกาลวันเทโวโรหณหมายถึง การเสด็จลงจากเทวโลก (สวรรค์)
ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากที่พุทธองค์ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว
ได้เสด็จไปประกาศพระศาสนาทั่วแคว้นชมพูทวีป กับทรงเทศนาโปรดพระพุทธบิดา พระนางยโสธราพิมพา
รวมทั้งพระราหุลพระราชกุมาร และพระประยูรญาติเสร็จแล้ว ทรงรำลึกถึงพระนางสิริมหามายาพระพุทธมารดา
ซึ่งสิ้นพระชนม์แล้ว
สมเด็จพระศาสดาทรงปรารภในการสนองพระคุณพระพุทธมารดา
พระพุทธองค์จึงเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระมารดาตลอดพรรษา (3 เดือน) กระทั่งพระพุทธมารดาบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ เมื่อถึงวันปวารณาออกพรรษาหนึ่งวันเป็นวันแรม
1 ค่ำ เดือน 11 (ใต้) หรือเดือนเกี๋ยงของทางภาคเหนือ พระพุทธองค์ได้เสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงสู่มนุษยโลก
ทางบันไดทิพย์ทั้งสามประกอบด้วย บันไดเงิน บันไดทอง และบันไดแก้ว
เพราะฉะนั้น ชาวพุทธจึงถือเอาวันดังกล่าวของจทุกปีเป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธองค์เสด็จจากเทวโลกสู่โลกมนุษย์
เรียกว่า “วันพระเจ้าเปิดโลก” ก็มี เรียกว่าวันเทโวโรหณะก็มี
และนิยมทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะเพื่อต้อนรับการเสด็จกลับโลกมนุษย์ของพระพุทธเจ้า
เพื่อมาเป็นที่พึ่งของมนุษย์สืบต่อไป โดยวัดต่าง ๆ ที่มีบันไดนาค
ก็จะจำลองเหตุการณ์เหมือนครั้งพุทธกาล นิมนต์พระภิกษุสามเณรเดินลงจากวัดมาบิณฑบาต
ในภาคเหนือมีวัดที่ตั้งอยู่บนยอดดอยจำนวนมาก
คณะศรัทธาสาธุชนจึงมีโอกาสได้ทำบุญตักบาตรเทโวฯอย่างสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม
แม้วัดในตัวเมืองและชุมชนที่ไม่ได้อยู่บนดอยบนเขา ก็ประกอบพิธีดังกล่าวได้
มีการจำลองพระพุทธองค์เสด็จโปรดโลกมนุษย์ และร่วมปฏิบัติธรรม
ทำบุญตักบาตรตามประเพณี
สำหรับที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
ก็ถือปฏิบัติตามประเพณีที่สืบต่อกันมายาวนาน ด้วยการตักบาตรเทโวโรหณะ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงรำลึกในพระพุทธมหากรุณาธิคุณ
และเป็นพุทธานุสติ ต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จจากดาวดึงส์ลงมายังโลกมนุษย์
โดยกำหนดประกอบพิธีดังกล่าวในวันที่ 31 ตุลาคม
2555 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เริ่มจากพระสงฆ์เดินลงมาตามบันไดนาคลงไปประกอบพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ
ที่บริเวณลานจอดรถหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จึงขอเชิญชวนประชาชน
พุทธศาสนิกชนร่วมพิธีโดยทั่วกัน
พิธีตักเทโวโรหณะนี้
วัดประจำอำเภอทุกวัดในภาคเหนือต่างพร้อมใจกันจัด สำหรับในเชียงใหม่มีอาทิ
วัดพระธาตุดอยสะเก็ด อ.ดอยสะเก็ด วัดอินทราราม ต.หางดง อ.ฮอด วัดพระเกิด อ.จอมทอง
เป็นต้น ในตัวเมืองเชียงใหม่ที่เตรียมงานวันเทโวโรหณะก็มีที่ วัดสันติธรรม
ต.ช้างเผือก ซึ่งปีนี้มีพระสงฆ์จำพรรษา 77 รูป ก็จัดงานเช่นกัน ส่วนที่วัดโลกโมฬี ถ.มณีนพรัตน์
ในความอุปถัมภ์ของพระเทพวรสิทธาจารย์ จะมีกิจกรรมสืบสานประเพณีอันดีงามทำพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ
ประจำปี 2555 เพื่อที่อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยมอบให้ พระปลัด ดร.ดวงคำ อภิวฑฺฒโน
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดโลกโมฬี เป็นประธานจัดงาน
พระปลัด ดร.ดวงคำ ฯ
กล่าวต่อปีอีกว่า อานิสงส์ของการที่ได้ทำบุญตักบาตรเทโวในแต่ละปีจะทำให้ทุกคนได้มีโอกาสลดเวรกรรมที่ได้ทำผิดคิดร้ายต่าง
ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการผิดพลาดไป ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่หรือใครต่อใครจะโดยเจตนาหรือไม่ก็จะทำให้หนักกลายเป็นเบาหรือที่เบา
ๆ ก็จะระงับคับไป จึงขอเชิญชวนคณะสงฆ์ศรัทธาสาธุชนทั้งหลายได้ร่วมในพิธีการอันเป็นกุศลครั้งยิ่งใหญ่ในวันพฤหัสบดีที่
31 ตุลาคม 2555 เริ่มที่เวลา 07.09 น.เป็นต้นไป จากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 4
พฤศจิกายน 2555 จะจัดให้มีพิธีการทอดกฐินการกุศล โดยคณะศิษย์ปู่ฤษีเกวลันจากสำนักสุขิโต
เพื่อนำปัจจัยทั้งหมดสมทบทุนสร้างหอฉันท์ของวัดโลกโมฬี จึงขอโมทนาบุญกับท่านที่ร่วมบุญถ้วนหน้า
พิธีตักบาตรเทโวโรหณะที่ยิ่งใหญ่อีกงานเป็นของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ร่วมตักบาตรเทโวโรหณะ พระภิกษุสามเณรประมาณ 500 รูป เนื่องในเทศกาลออกพรรษาและวันพระเจ้าเปิดเปิดบริเวณถนนสายวัฒนธรรม
ตั้งแต่หอนาฬิกาจนถึงวัดฝายหินเสมือนจำลองเหตุการณ์เมื่อครั้งพุทธกาลที่พระพุทธองค์เสด็จลงจากสรวงสวรรค์
ปีที่แล้ว ศ.ดร.พงษ์ศักดิ์
อังกสิทธิ์ อธิการบดีร่วมกับ มล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่
พร้อมด้วยกงสุลต่างประเทศ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ คณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่
นักศึกษา ตลอดจนพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีเนืองแน่น เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
รักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม
ตลอดจนร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง
ปีนี้ รศ.นพ.นิเวศน์ นันทจิต
ว่าที่อธิการบดีคนใหม่ เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมพิธี ตั้งแต่เวลา 06.30 น.ของวันที่
31 ตุลาคมนี้ หลังจากถวายภัตตาหารพระสงฆ์ ณ โรงอาหารคณะวิศวกรรมฯ และสาธิต
มช.แล้วจะเริ่มประกอบพิธีไหว้พระรับศีล
พระสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถาเสร็จก็จะตักบาตรตามประเพณีต่อไป.
บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์/เรื่อง-ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น