หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าว ; รมต.สำนักนายก ประชุมจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด รับมือการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน


รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และ 2 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ให้นโยบายจังหวัดต้องร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคธุรกิจให้มากขึ้น และแผนงาน/โครงการต้องเชื่อมกับแผนของกระทรวงซึ่งมีเม็ดเงินก้อนใหญ่กว่า

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (10 ก.ย.55) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ซึ่งเป็นแผน 4 ปี (2557-2560) มีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้ากลุ่มสำนักงานยุทธศาสตร์จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน จาก 2 กลุ่มจังหวัด เข้าร่วมประชุม ประมาณ 150 คน โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังการนำเสนอกรอบยุทธศาสตร์ทั้ง 2 กลุ่มจังหวัด ที่จะดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการเพื่อของบประมาณไปยังส่วนกลาง ในระหว่างปี 2557-2560 พร้อมให้นโยบายให้มีการทบทวนยุทธศาสตร์ แผนงาน/โครงการ ปัญหาอุปสรรค และข้อจำกัดต่างๆในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อนำมากำหนดยุทธศาสตร์ในการจัดทำแผนพัฒนายุทธศาสตร์ที่ตรงประเด็น สามารถแก้ปัญหาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามศักยภาพของแต่ละจังหวัดที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดจำเป็นที่จังหวัดจะต้องพูดคุยและร่วมมือกับภาคเอกชนให้มากขึ้น เพื่อดูความต้องการของภาคเอกชนและภาคธุรกิจในอันที่จะขับเคลื่อนร่วมกัน รวมไปถึงการยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้สามารถแข่งขันได้ ต้องทำในเรื่องของ สินค้าและผลิตภัณฑ์ การทำตลาดเชิงรุก ทำแผนงาน/โครงการใหญ่ๆ ไม่ให้เป็นการกระจายเม็ดเงินแบบเบี้ยหัวแตกอีกต่อไป ซึ่งก็จะทำให้สามารถแก้ปัญหาข้องจังหวัดและกลุ่มจังหวัดได้จริง โดยแผนงาน/โครงการต้องเชื่อมกับแผนของกระทรวงซึ่งมีเม็ดเงินก้อนใหญ่กว่าด้วย และในปี 2558 เป็นปีที่ประเทศไทย จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ดังนั้นการขับเคลื่อนการพัฒนาต่างๆต้องคำนึงในเรื่องดังกล่าวให้มากด้วยเพราะการเป็นประชาคมอาเซียน ถือว่าเป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบระยะยาวทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อประเทศ จึงจำเป็นต้องวางแผนให้ดี รอบคอบและรัดกุม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถชิงธงนำในกลุ่มอาเซียนให้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น