จากการสืบทราบของ พันตำรวจเอก ยุทธพล แก้วเจริญ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาส่งมอบเพื่อจำหน่ายในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ในช่วงระหว่าง 19-23 เมษายน 2554 จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการในสังกัด ทำการติดตามและจัดตั้งจุดตรวจสกัดกั้นตามเส้นทางสาย พร้าว - เชียงใหม่ โดยมอบหมายให้ชุดปฏิบัติการของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 333 และ 335 ออกตั้งจุดสกัดตามเส้นทางและเป้าหมายที่ได้รับจากสายข่าว
ครั้นเมื่อเวลา 03.30 น.ของวันที่ 21 เมษายน 2554 ขณะที่ชุดปฏิบัติการกำลังปฏิบัติหน้าที่ ณ ตู้ยามพิทักษ์ธรรม ระหว่างกิโลเมตรที่ 60 - 61 พื้นที่บ้านหลวง หมู่ 6 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พบรถยนต์ปิคอัพโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ผข 8963 เชียงใหม่ มีนายอนุพงษ์ เลาลี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 288 หมู่ 7 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับขี่ผ่านมาแบบมีอาการพิรุธ จึงได้เข้าขอตรวจค้น และจากการตรวจค้นพบยาบ้า 3 มัด รวม 6,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระบะท้ายรถ จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมยึดของกลางทั้งหมดพร้อมโทรศัพท์เคลื่อนที่อีก 4 เครื่องที่ใช้ประกอบการกระทำผิดไว้
ในขณะทำการตรวจค้น จับกุม และสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นอยู่นั้น ได้มีผู้หญิง 3 คน ทราบชื่อภายหลังคือนางเพ้ง แซ่เฒ่า อายุ 30 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านห้วยลึก ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นางพัชรินทร์ (อื่อ) เริงไม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 12 ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ทั้งสองเป็นญาติของนายอนุพงษ์ และนางราชพร (แซง) เลาหรื่อ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 288 หมู่ 7 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ภรรยานายอนุพงษ์ผู้ต้องหา ทั้ง 3 คน ได้ติดต่อขอให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปล่อยตัวนายอนุพงษ์ โดยเสนอเงินตอบแทนล้านบาท ชัดปฏิบัติการจึงได้ซ้อนแผนทำการจับกุมทั้ง 3 คน พร้อมของกลางเงินสดที่เสนอให้กับเจ้าหน้าที่และที่พกติดตัวไว้ รวมทั้งสิ้น 1,032,000 บาท พร้อมกล่าวหาว่า ติดสินบนเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และร่วมกันทำการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้โทษโดยผิดกฎหมาย นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าเป็นเพียงผู้รับจ้างลำเลียงยาบ้าดังกล่าว โดยนัดส่งของกันบริเวณห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยไม่รู้จักผู้ที่จะมารับ เพียงแต่นัดแนะพบและรับของกันเท่านั้น และรับจ้างขนยาบ้ามาก่อนหน้านี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพฤติกรรมดูเชี่ยวชาญและมีเงินสดติดตัวอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนในเชิงลึกเพื่อค้นหาความจริงและขยายผลไปยังเครือข่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลเบื้องต้นอยู่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น