หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ข่าว ; กอล์ฟเอเชียนทัวร์กลับมาแข่ง เริ่มด้วย 2 รายการติดที่ภูเก็ต

ศึกกอล์ฟเอเชียนทัวร์ พร้อมกลับมาดวลวงสวิงอีกครั้งหลังหยุดแข่งยาว 18 เดือนจากพิษโควิด-19 ล่าสุดเผยโปรแกรมการแข่งขันช่วงท้ายฤดูกาล 2020-2021 กำหนดจัด 2 รายการติดต่อกันที่ภูเก็ตปลายปีนี้ และอีก 2 รายการติดต่อกันที่สิงคโปร์ในเดือนมกราคม เพื่อตัดสินตำแหน่งแชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุดของทัวร์ 

นายโช มิน ตัน กรรมาธิการและประธานฝ่ายบริหารของเอเชียนทัวร์ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า การแข่งขันกอล์ฟเอเชียนทัวร์ซึ่งหยุดแข่งไปตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 พร้อมที่จะกลับมาดวลวงสวิงกันอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ โดยจัดการแข่งขัน 2 รายการติดต่อกัน ณ สนามกอล์ฟระดับแชมเปียนชิพที่มีชื่อเสียงที่สุดสองแห่งบนเกาะภูเก็ต ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท

โดยเริ่มจากรายการ บลูแคนยอน แชมเปียนชิพ ที่สนามกอล์ฟบลูแคนยอน คันทรี คลับ ระหว่างวันที่  25-28 พฤศจิกายน 2564 ต่อด้วยรายการ ลากูน่า ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามลากูน่า ภูเก็ต กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2564 จากนั้นในเดือนมกราคม หลังจากพักฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เอเชียนทัวร์วางแผนจัดการแข่งขันอีก 2 รายการติดต่อกันที่สิงคโปร์ โดยทั้งสี่รายการจะมีการถ่ายทอดสดทั้งทางทีวีและออนไลน์ โดยจะประกาศแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ 

นายโช มิน ตัน กล่าวว่า หลังจากต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมา 18 เดือน เอเชียนทัวร์รู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศแจ้งข่าวว่า เราสามารถกลับมาเริ่มแข่งใหม่ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2021 และสิ่งสำคัญที่สุดคือรีบดำเนินการให้มีการแข่งขันในทัวร์ของเราโดยเร็ว เอเชียนทัวร์ทำงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะทำให้สามารถกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง และหาตำแหน่งผู้ชนะทำเงินรางวัลสูงสุดของทัวร์ เราพบความท้าทายมากขึ้นในเรื่องการเดินทางเข้าประเทศต่างๆ และมาตรการป้องกันโควิดของแต่ละประเทศ เรามั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันและปิดฤดูกาลได้แม้ยังมีความท้าทายหลายอย่างรออยู่จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยการชิงชัยในช่วงท้ายฤดูกาลของเอเชียนทัวร์ครั้งนี้น่าจะสนุกน่าตื่นเต้นกว่าที่เคย เนื่องจากนักกอล์ฟใน 30 อันดับแรกของตารางทำเงินรางวัลสะสม จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรายการ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์เปิดฤดูกาลของเอเชียนทัวร์ในฤดูกาลหน้า โดยอัตโนมัติ 

สำหรับการลุ้นตำแหน่งมือหนึ่งเอเชียนทัวร์ หรือแชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุดฤดูกาล 2020-2021 จะนำการแข่งขัน 4 รายการในปี 2020 มานับรวมด้วย โดยปัจจุบัน เวด ออมสบี จากออสเตรเลีย เป็นผู้นำหลังจากคว้าแชมป์ ฮ่องกง โอเพน เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว

ด้าน โปรแจ๊ส อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ แชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุดของเอเชียนทัวร์ปี 2019 และล่าสุดอยู่อันดับ 5 ของตาราง ยืนยันเข้าร่วมแข่งขัน 2 รายการที่ภูเก็ต ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อลุ้นเป็นนักกอล์ฟคนแรกในประวัติศาสตร์เอเชียนทัวร์ ที่ครองแชมป์ทำเงินราวัลสูงสุด 2 ฤดูกาลติดต่อกัน 

อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ แชมป์เอเชียนทัวร์ 6 รายการ กล่าวว่า ถือเป็นข่าวดีมากๆ ที่เอเชียนทัวร์จะกลับมาแข่งขันในเร็วๆ นี้ เพราะนักกอล์ฟทุกคนต่างเฝ้ารอที่จะได้กลับมาลงเล่นอีกครั้งหลังพักไปนาน บรรยากาศการแข่งขันที่ภูเก็ตต้องพิเศษแน่นอน

ทั้งนี้ เอเชียนทัวร์จัดแข่งขันที่ภูเก็ตครั้งหลังสุดรายการ สิงห์ ลากูน่า โอเพน ที่สนามลากูน่า ภูเก็ต กอล์ฟคลับ ในปี 2019 เป็นรายการในโปรแกรม เอเชียน ดิเวลล็อปเมนทัวร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเอเชียนทัวร์ ขณะที่สนามบลูแคนยอน คันทรีคลับ เป็นเจ้าภาพจัดรายการใหญ่ของเอเชียนทัวร์หลายครั้ง และเคยต้อนรับนักกอล์ฟระดับโลกร่วมแข่งขันหลายคน รวมถึงอดีตมือหนึ่งโลกอย่าง ไทเกอร์ วูดส์ และเกร็ก นอร์แมน

เอเชียนทัวร์ เผยอีกว่าการแข่งขันทั้ง 4 รายการในช่วงท้ายฤดูกาล 2020-2021 จะจัดการแข่งขันในรูปแบบบับเบิ้ล และต้องปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้นักกอล์ฟต้องฉีดวัคซีนครบสองโดสเพื่อเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้

ทั้งนี้ การเปิดเผยโปรแกรมแข่งขันช่วงท้ายฤดูกาลของเอเชียนทัวร์ เกิดขึ้นหลังจากเพิ่งประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์เซ็นสัญญา 10 ปี ในการจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล ณ สนามรอยัล กรีน แอนด์ คันทรีคลับ ในเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ระหว่างวันที่ 3-6 กุมภาพันธ์ศกหน้า และเป็นรายการที่ชิงชัยเงินรางวัลสูงสุดของเอเชียนทัวร์ในปี 2022 นอกจากนี้เอเชียนทัวร์ยังมีแผนจะประกาศแจ้งโปรแกรมแข่งขันเพิ่มเติมในฤดูกาล 2022 เร็วๆ นี้

ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์  www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour


****************

www.jupjib.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น