หน้าเว็บ

วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ข่าว ; ภาคเหนืออุณหภูมิจะลดอีก ขณะที่ดอยอินทนนท์เริ่มคึกคัก

ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งเตือนประชาชนบริเวณภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลงอีก 1 - 3 องศา โดยจะมีอากาศหนาวเย็นที่สุดช่วงเดือนธันวาคมต่อถึงปลายเดือนมกราคมปีหน้า ขณะที่บรรยากาศการเปิดให้เที่ยวชมกิ่วแม่ปานบนยอดดอยอินทนนท์วันแรกคึกคัก มีนักท่องเที่ยวไปสัมผัสอากาศหนาวจำนวนมาก

นายเมธี มหายศนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 1 - 2 พฤศจิกายน 2560 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง อุณหภูมิสูงขึ้น 2 - 4 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 17-24 องศาเซลเซียล กับมีหมอกในตอนเช้า และช่วงวันที่ 4 - 6 พฤศจิกายน 2560 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน อาจทำให้มีฝนเล็กน้อยเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น และขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย โดยคาดว่าช่วงเวลาที่จะมีอากาศหนาวเย็นที่สุดจะอยู่ประมาณครึ่งหลังของเดือนธันวาคม 2560 ต่อไปจนถึงประมาณปลายเดือนมกราคม 2561

ในขณะที่นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าวว่า ขณะนี้ ที่ดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ อากาศเริ่มหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง โดยบริเวณยอดดอยอุณหภูมิต่ำสุด 5 องศาเซลเซียส ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นวันแรกที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้เปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ประจำปี 2560  หลังจากได้ปิดไปหลายเดือนเพื่อฟื้นฟูสภาพป่า ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลเดินทางเข้าสัมผัสอากาศหนาวเย็นบนยอดดอยกันอย่างคึกคัก สำหรับ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 42 ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้นเป็นวงรอบ ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร จุดเด่นของเส้นทางเดินนี้คือจะเป็นเส้นทางผ่านป่าดิบชื้น ทุ่งหญ้า และป่าเมฆ ซึ่งสภาพอากาศจะปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ที่สันเขานี้จะมีทุ่งกุหลาบพันปีออกดอกให้ได้ชื่นชมกันในช่วงฤดูหนาว และยังมีดอกไม้หายากมากมาย เมื่อเดินผ่านสันเขาไปที่เป็นทางเดินกลับจะเดินเข้าสู่ป่าดิบชื้นอีกครั้ง รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 2 – 3 ชั่วโมง

**********************
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น