ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่เช้าวันนี้ "โค้ชเบนซ์" ญาณวิทย์ คันธราษฎร์ ผู้อำนวยการอะคาเดมี่เยาวชน สโมสรฟุตบอลสุโขทัย เอฟซี ได้เดินทางกลับจากการไปศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการอะคาเดมี่ฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ โดยมี นางแน่งน้อย คันธราษฎร์ มารดา และ นางสาวชลนิษา มีมงคล ผู้ประสานงานศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยพายัพ พร้อมตัวแทนศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยพายัพร่วมให้การต้อนรับ ในฐานะที่ทั้งโค้ชเบนซ์ และคุณแม่แน่งน้อย ต่างก็เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยพายัพเช่นกัน
โค้ชเบนซ์ ญาณวิทย์ คันธราษฎร์ ให้สัมภาษณ์เมื่อเดินทางถึงเชียงใหม่ว่า สโมสรฟุตบอลสุโขทัย เอฟซี ได้ให้การสนับสนุนในการไปศึกษาดูงานครั้งนี้ โดยได้ไปดูการจัดการโครงสร้างอะคาเดมี่ของประเทศอังกฤษ เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาเยาวชนไทย ซึ่งพบว่าโครงสร้างของไทยกับอังกฤษมีความแตกต่างกัน อย่างอะคาเดมี่ของสโมสร เบอร์ตัน อัลเบียน ที่ได้ไปศึกษาดูงานครั้งนี้ซึ่งเป็นสโมสรที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับเมืองไทยมากที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนให้เข้าให้เยี่ยมชมศูนย์ฝึกและสนามแข่งขัน เพื่อนำมาปรับใช้กับสุโขทัย เอฟซี อีกทั้งยังได้ประสานงานไว้เพื่อจะได้เป็นสโมสรพาร์ทเนอร์ ในการส่งเยาวชนไทยไปฝึกฝนที่อังกฤษ รวมทั้งการจัดทีมงานเดินทางมาเปิดคลินิกการสอนฟุตบอลที่เมืองไทยในอนาคต
ในฐานะที่เป็นโค้ชฟุตบอลคนไทยคนเดียวที่ผ่านการอบรมและได้รับประกาศนียบัตร EUFA A Licence จากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (EUFA) มีความเข้าใจภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีเพราะเคยศึกษาอยู่ที่นั่นนานหลายปี ประกอบกับมีความเข้าใจในวัฒนธรรมของไทย ดังนั้น การดูงานครั้งนี้เชื่อว่าจะนำมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม สามารถพัฒนานักฟุตบอลไทยได้ เนื่องจากนักฟุตบอลไทยส่วนใหญ่มีศักยภาพและเทคนิคดี แต่ยังขาดความรู้ทางด้านแทคติกการพัฒนาเฉพาะด้าน โดยจะนำมาปรับใช้ที่สโมสรสุโขทัยเอฟซีให้ประสบความสำเร็จ ภายใน 3-5 ปี สามารถผลักดันเด็กขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่ และให้ก้าวหน้าไปสู่ต่างประเทศในอนาคต
โค้ชเบนซ์ได้กล่าวถึงการบริหารจัดการอะคาเดมี่เยาวชนสุโขทัยเอฟซีว่า ขณะนี้ทีมเยาวชนได้รับการตอบรับและพัฒนาไปในทางที่ดี ที่ผ่านมามีนักเตะผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 2-3 คน และในวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้ ทางสโมสรจะมีการคัดเลือกเพิ่มเติม นอกจากนั้น ทางอะคาเดมี่ยังจะมีการพัฒนาแมวมองของทีมงานเพื่อให้ค้นพบนักฟุตบอลที่อยู่นอกสายตานำมาพัฒนาให้ได้มากที่สุด เพราะสโมสรสุโขทัยเอฟซีมีนโยบายในการสร้างทีมจากเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่มากกว่าการซื้อนักเตะ ซึ่งจะเป็นพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นการสร้างนักเตะให้มีความก้าวหน้า พัฒนาถึงระดับติดทีมชาติและออกไปเล่นในระดับนานาชาติในวันข้างหน้า
ส่วนจุดอ่อนของวงการฟุตบอลไทยนั้น โค้ชเบนซ์มองว่ามี 2 อย่างคือ โอกาส ที่ไม่เปิดกว้างมากพอโดยเฉพาะนักกีฬาที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีโอกาสแสดงความสามารถให้แมวมองได้เห็น จึงขาดโอกาสที่จะเข้าสู่วงจรการพัฒนาและก้าวหน้า จึงอยากให้สร้างโอกาสแก่เด็กที่มีความสามารถซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ให้ได้เข้ามารับการพัฒนาต่อยอดให้กว้างขวางมากขึ้น อีกประการหนึ่งคือเรื่องบุคลากร ซึ่งปัจจุบันโค้ชส่วนใหญ่จะมองหาเยาวชนตามแนวทางของตัวเองชอบหรือมีความถนัด แต่ยังขาดการมองแบบองค์รวมเพื่อนำมาพัฒนาเฉพาะด้านอย่างรอบด้านให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สำหรับนักเตะเยาวชนแล้ว อยากจะฝากว่าต้องหมั่นฝึกซ้อมให้มากที่สุดจึงจะสามารถพัฒนาให้มีความสามารถได้ นักกีฬาไม่ว่าจะมีพรสวรรค์มากเพียงใด แต่ก็จะสู้พรแสวงไม่ได้ การหมั่นฝึกฝนเท่านั้นที่จะนำไปสู่การพัฒนาเพียงพอที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้
สำหรับ "โค้ชเบนซ์" ญาณวิทย์ คันธราษฎร์ เป็นชาวเชียงใหม่โดยกำเนิด จบปริญญาตรีนิเทศศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยพายัพ ด้วยอายุเพียง 20 ปี เนื่องจากเป็นคนเรียนเก่ง ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยก็ใช้การสอบเทียบชั้นในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 และปีที่ 6 ให้สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้เร็วขึ้น จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ผ่านการอบรมโค้ชฟุตบอลจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป ตั้งแต่ระดับ EUFA D Licence, EUFA C Licence, EUFA B Licence และ EUFA A Licence ภายในระยะเวลา 9 ปี ซึ่งเป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่จบการอบรมในรุ่นนั้น จากนั้นได้กลับมาเปิดอะคาเดมี่ของตัวเองอยู่ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ชื่อ ญาณวิทย์ อะคาเดมี่ เปิดสอนฟุตบอลทุกระดับ และต่อมาได้รับการติดต่อจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานสโมสรฟุตบอลสุโขทัย เอฟซี ให้เข้าร่วมงานในตำแหน่ง ผู้อำนวยการอะคาเดมี่ ในชุดอายุต่ำกว่า 19 ปีจนถึงปัจจุบัน
**************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น