คณะกรรมการมูลนิธิพระธาตุเจดีย์หลวง
ร่วมกับคณะสงฆ์ผนึกกำลังผลักดันอภิมหาโปรเจคท์ บูรณะพระธาตุเจดีย์หลวงเต็มองค์
เบื้องต้นหารือกรมศิลปากร และมอบให้ ช่างรุ่ง จันตาบุญ
ช่างใหญ่เจ้าของผลงานหอคำหลวงลงสำรวจคาดจะใช้งบประมาณถึงพันล้านบาท
โดยจะนำเสนอรัฐบาลสนับสนุนงบ พร้อมรณรงค์ชาวพุทธทั่วโลกร่วมกันเป็นเจ้าภาพ
ตามที่
คณะกรรมการมูลนิธิพระธาตุเจดีย์หลวง โดย พล.ท.จำนงค์ รอดเจริญ
นายทหารนอกราชการ อาจารย์มงคล
บุญวงศ์ อดีต ผอ.วิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่ นายอินสม ปัญญาโสภา
นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคเหนือแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ได้ร่วมประชุมกับพระราชเจติยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เมื่อเร็วๆ นี้
ถึงแนวทางการบูรณะพระธาตุเจดีย์หลวงให้เต็มองค์
เพื่อให้เกิดศรัทธาปสาทะในหมู่พุทธศาสนิกชนยิ่งขึ้น โดยพระครูโสภณกวีวัฒน์
ผช.เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง อธิบายว่า โครงการบูรณะพระธาตุเจดีย์หลวงเต็มองค์นั้น
เดิมปี 2540
สถาบันราชภัฏเชียงใหม่ร่วมกับวัดจัดทำประชาพิจารณ์ขอประชามติจากพุทธศาสนิกชน
โดยมีพระธรรมดิลก (จันทร์ กุสโล) และนายพลากร สุวรรณรัฐ
ผวจ.เชียงใหม่ขณะนั้น เป็นประธาน ทำด้วยเหตุด้วยผล ศรัทธา
และหน้าที่ทุกฝ่ายไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ แอบแฝง
ผลปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยควรจะบูรณะพระธาตุเจดีย์หลวงเต็มองค์
แต่มีเสียงคัดค้านเพียงบางคน ทางคณะสงฆ์จึงให้ระงับไว้ก่อนนั้น
ล่าสุด
มีความเคลื่อนไหวที่จะเดินหน้าโครงการบูรณะพระธาตุเจดีย์หลวงให้เต็มองค์ขึ้นมาอีกครั้ง
โดยการประชุมของคณะกรรมการมูลนิธิพระธาตุเจดีย์หลวง ที่มี พล.ท.จำนงค์ รอดเจริญ
เป็นประธานได้มีหนังสือหารือไปยังกรมศิลปากร เพื่อให้มีการสำรวจศิลปกรรม
รูปแบบที่ถูกต้อง ในส่วนที่เป็นปลายยอดของพระธาตุ และประมาณค่าใช้จ่าย
หากจะต่อเติมให้เต็มองค์ ซึ่งเรื่องนี้ นายไกรสิน อุ่นใจจินต์ รก.ผอ.สำนักศิลปากรที่
8 เชียงใหม่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางคณะกรรมการมูลนิธิ
และคณะสงฆ์วัดเจดีย์หลวงฯได้มีหนังสือ พร้อมแนบโครงการมาแล้ว
โดยมีการหารือกับผู้ใหญ่ในรัฐบาล เพื่อจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
เพื่อต่อเติมให้พระธาตุเจดีย์หลวงเต็มองค์ พุทธศาสนิกชนมองเห็นแล้วไม่เกิดความหม่นหมองเศร้าสลดที่องค์พระธาตุหักลงมาตั้งแต่
พ.ศ.2088 เกือบ 500 ปีมาแล้ว
นายไกรสิน อุ่นใจจินต์
กล่าวว่า เมื่อครั้งที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
มาประทับชั่วคราวที่วัดเจดีย์หลวง พระองค์ก็สอบถามถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมา
และเหตุการณ์ที่ทำให้ยอดองค์พระธาตุหักลงมา
เมื่อได้รับการอธิบายจากพระพุทธพจนวราภรณ์ (เมื่อครั้งเป็นพระธรรมดิลก)
ก็รับสั่งว่า ควรจะมีการต่อเติมให้เต็มองค์เหมือนเดิม เพื่อความสง่างามของพระธาตุเจดีย์ที่อยู่ใจกลางเมือง
ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน
เป็นองค์พระธาตุของบุรพกษัตริย์ลานนาที่สร้างขึ้นใกล้กับวัง
เรื่องนี้จึงนำมาสู่การทำประชาพิจารณ์ โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย
จะมีคัดค้านบ้างก็ไม่กี่คน ครั้งนี้คณะกรรมการจึงเห็นว่าควรถึงเวลานำเสนอโครงการบูรณะพระธาตุเต็มองค์ขึ้นมาใหม่
ส่วนทางด้านรูปแบบสถาปัตยกรรมองค์พระธาตุนั้นไม่มีปัญหา
นักวิชาการเคยสำรวจและออกแบบปลายยอดพระธาตุเจดีย์หลวงไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ ประมาณว่าอาจต้องใช้งบประมาณถึงพันล้านบาท
ซึ่งมีความเป็นไปได้หากได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย
ทางด้าน นายรุ่ง จันตาบุญ หรือช่างรุ่ง
เจ้าของผลงานสร้างหอคำหลวง ในอุทยานหลวงราชพฤกษ์อันลือลั่นมาตั้งแต่ พ.ศ.2549
เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการมูลนิธิฯ และทางวัด
ประสานกับสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ เข้าลงพื้นที่สำรวจรอบองค์พระธาตุเจดีย์หลวง
และการประเมินค่าก่อสร้างเบื้องต้นเสนอไปแล้ว น่าจะไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท
โดยรวมถึงการหุ้มทองจังโก การสร้างปลียอด และฉัตรทองคำ และองค์ประกอบอื่น ๆ
อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งเชื่อว่า ถ้าเขียนรูปแบบออกมาให้เห็นองค์พระธาตุใหญ่ที่สุดเต็มองค์อยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่เสมือนพระธาตุเจดีย์ชะเวดากองของพม่าแล้ว
พุทธศาสนิกชนทั่วไปจะสนับสนุนอย่างแน่นอน โดยขั้นตอนต่างๆ
ขณะนี้อยู่ที่กรมศิลปากรจะอนุมัติให้ดำเนินการหรือไม่
และขั้นต่อไปคือการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ตนเชื่อว่าการบูรณะให้องค์พระธาตุมีความสวยงามเป็นสง่าราศีต่อบ้านเมือง
และพระพุทธศาสนา จะดีกว่าปล่อยให้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้.
บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์ ภาพ/ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น