ผู้นำศาสนาได้ให้เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่
5 จังหวัดชายแดนใต้ ในเวทีเสวนา “ผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุข”
โดยให้โอกาสเจ้าของพื้นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ต้องศึกษาถึงวิถีชีวิตของชุมนุมในชายแดนใต้เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยความเข้าใจและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
นายชูโชค ทองตาล่วง ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ในเวทีเสวนา “ผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุข” ซึ่งสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29
มิถุนายน 2555 ณ โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมเสวนาเป็นผู้นำศาสนาต่าง
ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 40 คน ส่วนผู้นำศาสนาที่ร่วมเสวนาและแสดงความคิดเห็นบนเวที
2 ท่าน ประกอบด้วย พระมหาสง่า ธีรสํวโร
เจ้าอาวาสวัดผาลาด อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่
5 จังหวัดชายแดนใต้ว่า
ให้นำแนวพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการพัฒนาภาคใต้
ให้โอกาสให้พวกเขาเป็นเจ้าของพื้นที่โดยการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเองในสิ่งที่ประชาชนในชุมนุมขาดแคลนและต้องการได้รับการพัฒนาในสิ่งที่ขาดจนสามารถสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงในพื้นที่ได้
ชี้แนะให้คนในพื้นที่น้อมนำศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิตไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม
เพราะทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี และควรที่จะเลิกทะเลาะกันได้แล้ว เพราะในอีก 3
ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งต้องแข่งขันกับประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน
รวมถึงประเทศอื่น ๆ นอกประชาคมอาเซียน ดังนั้นคนไทยจึงต้องมีความรัก ความสามัคคี
และผนึกกำลังของคนในชาติให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศไทย
ด้าน น.ท. สมคิด
ลัทธิศักดิ์ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ร่วมแสดงความคิดเห็นบนเวทีเสวนาด้วย
ได้เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ว่า
เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ต้องทำความเข้าใจถึงวิถีการดำเนินชีวิตของคนในพื้นที่
ทั้งขนบธรรมเนียม ประเพณี สังคม ศาสนา
และปฏิบัติตัวให้สามารถอยู่ร่วมกับคนในพื้นที่ได้อย่างสันติสุข
เปลี่ยนวิธีปฏิบัติจากการใช้กำลังหรือความรุนแรง มาเป็นการให้ความรู้
การเข้าไปพัฒนาให้พื้นที่มีความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมกับพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ
โดยการส่งเสริมทั้งด้านการศึกษาและอาชีพสำหรับนำไปเป็นความรู้ในการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว สกัดกั้นมิให้ยาเสพติดสามารถเข้าไปมอมเมาเยาวชนในพื้นที่ได้
เพราะหากเยาวชนเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดจากผู้ประสงค์ร้ายแล้วก็จะตกเป็นเครื่องมือของบุคคลดังกล่าวที่คอยยุยงให้เยาวชนเหล่านี้กระทำความผิดและก่อความรุนแรงขึ้นได้
ในส่วนของผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้กล่าวเสริมว่า
ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ เกิดจากนายทุนหลายกลุ่ม ประกอบด้วย
นายทุนยาเสพติดที่เข้าไปมอมเมาเยาวชนในพื้นที่ให้ตกเป็นเครื่องมือก่อความรุนแรง
นายทุนภาครัฐที่ทุ่มงบประมาณเข้าไปพัฒนาในจำนวนมหาศาล
แต่ไม่มีการประเมินผลลัพธ์ที่ได้ว่าคุ้มค่ากับงบประมาณที่นำไปพัฒนาหรือไม่และสิ่งที่นำไปพัฒนานั้นเป็นความต้องการของคนในพื้นที่หรือไม่
นอกจากนั้นยังมีนายทุนที่เข้าไปเพื่อหวังทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รวมถึงนายทุนของการยั่วยวนในสิ่งอบายมุข ต่าง
ๆ ให้แก่คนในพื้นที่ ซึ่งหากรัฐบาลสามารถขจัดนายทุนเหล่านี้ได้
ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนได้ก็จะลดน้อยลง หรือหมดไปในที่สุด
ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า
การจัดเสวนา “ผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุข” ในครั้งนี้ เป็นการสื่อสารให้สังคมได้รับรู้และเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนชาวไทยในการเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกัน
โดยผู้นำศาสนาถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุของความรุนแรงและชี้แนะแนวทางในการแก้ไขปัญหา
ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายและการปฏิบัติอย่างแท้จริง ซึ่งรัฐต้องมีความจริงใจ
รับฟังเสียงของประชาชน และนำมาดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยจะสรุปความคิดเห็นที่ได้จากการเสวนานำเสนอรัฐบาลต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น